กระทรงสาธารณสุขออกเตือน จ้องมือถือ และคอมพิวเตอร์นาน ควรระวังปัญหาโรค (Computer vision Syndrome : CVS)

ในปัจจุบันนั้น เทคโนโลยีมีความสำคัญมาก และใช้ในชีวิตประจำวันของสังคม ของเราเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่อง การงาน การติดต่อสื่อสาร การคมนาคม การศึกษา การเกษตร และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเด็กๆรวมถึงกลุ่มวัยรุ่น ปัจจุบันนั้นใช้เทคโนโลยีจำพวก smart phone ,tablet และ computer เป็นอย่างมาก แล้วคุณรู้หรือไม่ล่ะ ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นภัยต่อตา ของเรา โดยวันที่ 19 กันยายน 2558 นี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้กล่าวไว้ว่า วิถีการทำงานของสังคมยุคปัจจุบันที่เป็นสังคมดิจิตอลนั้น น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการใช้สายตาในการทำงานบนจอคอมพิวเตอร์ หรือ แท๊บเล็ตและสมาร์ทโฟน โดยการใช้งานติดต่อกันเป็นเวลาเกิน 2 ชั่วโมงนั้น หรือทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกวัน(พนักงานออฟฟิศ)  เป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อสุขภาพตา เรียกว่า อาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม หรือ ซีวีเอส (Computer vision Syndrome : CVS) โดยจะมีอาการปรากฏดังนี้  ตาแห้ง น้ำตาไหล แสบตา ปวดตา ปวดศีรษะ ปวดไหล่ ปวดหลัง โดยระดับความรุนแรงของอาการนั้นจะมีความรุนแรงมากขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการใช้สายตาหน้าจอคอมพิวเตอร์นั่นเอง

                โดยอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้กล่าวไว้ว่า อาการคอมพิวเตอร์วิชชั่นซินโดรมนอกจากเกิดจากการใช้สายตาจ้องหน้าคอมเป็นระยะเวลานานแล้ว ยังเกิดจาก การตั้งคอมพิวเตอร์ไม่เหมาะสม แสงคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอ ระยะห่างของดวงตากับคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอ รวมถึงท่านั่งทำงานไม่เหมาะสม หรืออาจเกิดจากความผิดปกติทางสายตา วิธีป้องกันหรือช่วยลดปัญหานี้ที่ดีที่สุด คือ

1.ควรปรับแสง

2.นั่งระยะห่างให้เหมาะสม

3.ละสายตาจากคอมพิวเตอร์ทุกๆ 20 นาที

โดยใช้สูตรการพักสายตา 20-20-20 เพื่อป้องกันหรือช่วยลดอาการคอมพิวเตอร์วิชชั่นซินโดรมคือ ละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุก 20 นาที แล้วมองไปที่วัตถุที่อยู่ไกลอย่างน้อย 20 ฟุตนานประมาณ 20 วินาที ขณะทำงานหน้าจอ ควรกะพริบตาให้บ่อยขึ้น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดวงตา

นอกจากนี้แล้วทางศูนย์แว่นตา Youoptic ยังขอแนะนำ เลนส์แว่นตาที่ช่วยป้องกันรังสีจากคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน สำหรับผู้ต้องการสอบถามเพิ่มเติม ปรึกษาปัญหาสายตา ปรึกษาเรื่องแว่นตา แว่นกันแดด เรื่องกรอบแว่นสายตา กรอบแว่นกันแดด

ติดต่อได้ที่ : 085-188-2597  Line : jame_od12

แหล่งที่มา : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1442724131